วัดถือเป็นศูนย์รวมใจคู่กับชาวพุทธมาอย่างช้านาน ในปัจจุบันก็ถือเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นต่างเดินทางเข้ามากราบไหว้พระขอพรอยู่เสมอ
และวันนี้โคอี้มอร์รี่ก็เลยถือเป็นโอกาสจะนำพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจวัดดังอีกหนึ่งในจังหวัดสระบุรีกันกับที่นี่ “วัดสมุหประดิษฐาราม” ส่วนภายในวัดจะน่าสนใจขนาดไหน? จะมีจุดท่องเที่ยวสำคัญอะไรที่เพื่อน ๆ ไม่ควรบ้างนั้น ตามโคอี้ไปตะลุยสำรวจที่นี่กันแบบเต็ม ๆ เลยมอร์
สำหรับ วัดสมุหประดิษฐาราม มีที่มาจากในอดีตคือเป็นวัดที่สร้างโดย เจ้าพระยานิกรบดินทร์มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นตระกูลกัลยาณมิตร (ข้าราชการในสมัย ร.3) เพื่ออุทิศให้มารดา หลังจากสร้างแล้วเสร็จ จึงน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวงในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 โดยวัดแห่งนี้เป็นสถานที่ประชุมข้าราชการจังหวัดสระบุรีเพื่อทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ในพระอุโบสถของทุก ๆ ปี
แต่ภายหลังได้เลิกไปจัดประชุมที่อื่น จากนั้นก็ใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานเจ้าคณะเมืองสระบุรี (เจ้าคณะจังหวัด) ซึ่งปรากฏหลักฐานตั้งแต่สมัย ร.4 โดยมีการจัดศาลาโรงธรรมในวัดเป็นโรงเรียนนามว่า “โรงเรียนประถมสมุหประดิษฐ์” เปิดสอนเมื่อ 9 พฤษภาคม ร.ศ. 126 หรือ พ.ศ. 2451 จวบจนถึงปัจจุบันนั้นเอง
เมื่อเดินเข้ามาสำรวจยังตัววัด ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมพระอุโบสถ สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2404 และมีการบูรณะครั้งใหญ่ใน ร.ศ.118 (พ.ศ.2443) มีลักษณะทั่วไปในแบบอาคารทรงไทยเฉลียง 2 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกาหางหงส์ หน้าบันเป็นปูนปั้นลวดลายดอกไม้และรูปสิงห์ ทั้ง 2 หน้า หน้าต่าง 5 ช่อง
ภายในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนัง ผนังด้านทิศเหนือ เป็นภาพขบวนแห่ในงานพิธีถวายกระทงเสียหัว ซึ่งเป็นประเพณีพื้นบ้านท้องถิ่นและภาพกลุ่มสตรีชาวล้านนา, การแต่งกาย, สภาพสังคมและชีวิตของคนไทยในอดีตประมาณ พ.ศ.2400 เป็นภาพที่งดงามและมีเสน่ห์ ทั้งยังให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนพระประธานในพระอุโบสถหลังดังกล่าวเป็น พระประธานที่ไม่มีพระนาม เป็นพระหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย อัญเชิญมาจากเมืองเก่าสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2 ศอก 10 นิ้ว (1.25 ม.) สูงแต่พระเพลาถึงพระรัศมี 3 ศอกคืบ 3 นิ้วและมีพระอัครสาวกหล่อลงรักปิดทอง 2 องค์ นั่งพับเพียบประนมมืออยู่เบื้องซ้ายและขวา สูง 1 ศอก 7 นิ้ว เท่ากันทั้ง 2 องค์
ถัดมาก็คือ พระเจดีย์ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกห่างจากกำแพงแก้วพระอุโบสถประมาณ 10 วาเศษ ฐานล่างมีกำแพงแก้วล้อมรอบกว้างยาวด้านละ 10 วา 2 ศอกคืบ 3 นิ้วเท่ากัน เป็นเจดีย์ชนิด 8 เหลี่ยม ๆ ละ 7 ศอกคืบ มีบันได 4 ด้าน องค์พระเจดีย์ สูงประมาณ 7 วาเศษ
และรูปหล่อโลหะ รูปเหมือนพระศีลวิสุทธิดิลก (เจ้าคุณโต ธมฺมปญฺโญ) ขนาดหน้าตัก 60 ซม. ปัจจุบันประดิษฐานไว้ที่ อาคารโสภณปริยัติกิจ
นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุสำคัญหลายชิ้น อาทิ ตุ๊กตาจีน ตุ๊กตาหินเขียวแกะสลัก ลักษณะแบบเซียนจีน ยืนทั้งคู่ สูง 1.16 ม. มีมาในยุคเดียวกับการสร้างวัดไม่ปรากฏชัดว่าได้มาจาก ณ ที่ใด สังหาริมวัตถุ ซึ่งได้พระราชทานและมีผู้ให้ไว้สำหรับวัด คือธรรมาสน์ลายทอง มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ จปร. พระไตรปิฎกฉบับพิมพ์ใน ร.5 พร้อมทั้งตู้สำหรับบรรจุ
แถมในครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการใน จ.สระบุรี ก่อนถูกยกเลิกไปภายหลังอีกด้วย ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด ก็ได้อาศัยตระกูลกัลยาณมิตร อาทิ พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าภัทรายุวดี และพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ พระลูกเธอใน ร.๕ ซึ่งเป็นหลานปู่สร้างวัด ทั้งสองพระองค์ จนกระทั่งคนในตระกูลกัลยาณมิตร และบุคคลทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ถือเป็นอีกหนึ่งวัดดังในสระบุรี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่าเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก ๆ อีกหนึ่งแห่งเลยก็ว่าได้ เพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวที่นี่ก็จะได้ทั้งความรู้ทางประวัติศาสตร์แบบอัดแน่นกลับไปอย่างแน่นอน ใครที่มีโอกาสมีเที่ยวสระบุรี ต้องไม่พลาดปักหมุดเช็คอินไหว้พระขอพรจากที่นี่ด้วยนะมอร์มอร์
เวลาเปิดปิด : 08.30-16.30 น.
ที่ตั้ง : 2 ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม ม.7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
แผนที่การเดินทาง