ในจังหวัดสระบุรี มีวัดวาอารามที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ครั้งนี้เราอยู่ในเขตหมู่บ้านถ้ำน้ำพุ อำเภอแก่งคอย “วัดถ้ำพระโพธิสัตว์” เป็นวัดสายวิปัสสนาธรรมที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยความเงียบสงบสมกับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแน่นอนว่านอกจากธรรมชาติที่ร่มรื่นภายในบริเวณวัดแล้ว วัดถ้ำพระโพธิสัตว์แห่งนี้มีความน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายให้เราได้เที่ยวไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ธรรมะให้แตกฉานมากยิ่งขึ้น
ด้วยความที่วัดถ้ำพระโพธิสัตว์มีบริเวณวัดอยู่ในเขาน้ำพุ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดเขาน้ำพุ” หรือ “ถ้ำพระงาม” เนื่องจากลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำหินขนาดเล็กและใหญ่บนเขาน้ำพุ ซึ่งมีความสวยงามของหินงอกหินย้อย และลักษณะถ้ำที่แปลกตา ทำให้เราอยากจะมาชมให้เห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชมภายในถ้ำ
เราขอชมความสวยงามของศาลาธรรมเจดีย์บริเวณเชิงเขาน้ำพุกันก่อน ซึ่งศาลาธรรมเจดีย์องค์นี้โดดเด่นด้วยลักษณะเจดีย์ทรงลังกา สีขาวสะอาดตาแซมด้วยสีทองที่ช่วยขับเน้นให้เจดีย์องค์นี้สง่างามท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม บริเวณบันไดทางขึ้นถูกตกแต่งด้วยรูปปั้นนาคราช ซึ่งมีท่อนบนเป็นเทวดา
ส่วนท่อนล่างเป็นหางนาคขนานไปตลอดเส้นทางขึ้นสู่ภายในองค์ ภายในวัดถ้ำอยู่หลายถ้ำ ซึ่งถ้ำที่น่าสนใจที่สุดก็คือ “ถ้ำพระโพธิสัตว์” ตามชื่อวัดนั่นเอง ถ้าคนที่คุ้นเคยกับการเที่ยวถ้ำอยู่แล้วก็คงจะทราบกันดีว่า เราจะต้องออกแรงเดินขึ้นบันได
หรือปีนป่ายขึ้นไปบนเขาเพื่อไปให้ถึงปากทางเข้าถ้ำ สำหรับทางขึ้นถ้ำพระโพธิสัตว์นี้จัดว่าสะดวกอยู่พอสมควร เพราะมีขึ้นบันไดพร้อมราวจับไปตลอดทาง ติดขัดอยู่นิดหน่อยก็ที่ความชันนี่แหละที่ทำให้เป็นข้อจำกัดของคนสูงวัย เพราะกว่าจะเดินไปถึงปากทางเข้าได้ต้องฝ่าฟันขั้นบันไดกว่า 257 ขั้น
ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบเลยทีเดียว ทางเข้าถ้ำเป็นทางแคบๆ
เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับเจดีย์ปิดทองตั้งอยู่บนฐานหินขัดสวยงาม ซึ่งบริเวณนี้ของถ้ำเป็นส่วนที่มีแสงสว่างส่องถึงมากที่สุด เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ผนังถ้ำด้านบนสูงจากพื้นประมาณ 3-5 เมตร
เราจะพบเห็นภาพสลักนูนต่ำรูปบุคคลในอิริยาบถต่างกัน ซึ่งเป็นลวดลายศิลปะสมัยทวาราวดี ช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นภาพตอนที่บรรดาเทพกำลังเฝ้าทูลอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในโลก
นอกจากภาพสลักบนผนังถ้ำแล้ว ภายในถ้ำยังมีหินงอก หินย้อย รูปร่างต่างๆ อีกมากมาย และเคยมีนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ถ้ำนี้น่าจะถูกใช้เป็นที่จำศีลภาวนาของนักบวชและฤาษีมาก่อน
นอกจากถ้ำพระโพธิสัตว์แล้ว ภายในวัดยังมีถ้ำพระธรรมทัศน์ ถ้ำลุมพินีสวนหิน และถ้ำสงัดเจดีย์ ที่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหินงอก หินย้อยภายในถ้ำได้อีกด้วย
ก่อนจะเดินกลับลงมาด้านล่างอย่าลืมแวะที่บริเวณธารน้ำตก ซึ่งขอบอกเลยว่าธารน้ำตกแห่งนี้เรียกว่าเป็นแหล่ง unseen อีกแห่งหนึ่งและมีประวัติที่น่าสนใจมาก น้ำตกแห่งนี้มีชื่อว่า น้ำตก จ.ป.ร.
ซึ่งเป็นน้ำตกที่อยู่ในบริเวณวัดถ้ำโพธิสัตว์โดยมีจารึกสลัก พระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. 115 ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งท่านได้เสด็จประพาสทางม้า เมื่อวันที่ 20ธันวาคม พ.ศ. 2439 รอยสลักมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด จุดแรกสลักไว้ที่บริเวณต้นไม้ใหญ่บริเวณน้ำตกปัจจุบันต้นไม้ต้นนี้ได้โค่นล้มไปแล้ว และจุดที่สอง สลักไว้บริเวณบนหน้าผาหินเหนือน้ำตกในปัจจุบัน
เราสามารถแวะไปนั่งพักผ่อนชมสายน้ำเย็นๆหรือจะเดินเล่นสงบจิต สงบใจรอบๆ วัดอีกซักหน่อยก็เป็นเรื่องที่น่าแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพราะรอบๆ วัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งบางต้นมีอายุกว่า 300 ปี แถมรอบๆ วัดยังติดป้ายคำ ที่รวบรวมคติเตือนใจ ให้เราได้หยุดให้สติพิจารณา แฝงการเรียนรู้ธรรมะแบบอ้อมๆ ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย แบบนี้แหละนะเราถึงได้รู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้เข้าวัด
จุดเด่น : ภาพสลักบนผนังถ้ำพระโพธิสัตว์ เป็นลวดลายศิลปะสมัยทวาราวดี สันนิษฐานว่าเป็นภาพของทวยเทพกำลังอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดสรรพสัตว์ ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่ควรค่าแก่การศึกษา นอกจากนี้บริเวณรอบๆ วัดยังร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และธารน้ำตกที่บริเวณตีนเขา มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
แผนที่เดินทางมายังวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
ที่อยู่ : หมู่ 10 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี 18260
เวลาทำการ : 6.00-18.00 น.
ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : เที่ยวชมภายในถ้ำพระโพธิสัตว์ ชมภาพหินสลักโบราณ ศึกษาธรรมมะ ปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนา
วิธีการเดินทาง
จากในตัวเมืองสระบุรี ให้ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครราชสีมาพอมาถึงโรงปูนนครหลวงนกอินทรีให้ชิดซ้ายขึ้นสะพานกลับรถ จากนั้นให้ขับตรงมาอีกเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตรจะเห็นป้ายวัดถ้ำดาวเขาแก้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านวัดถ้ำดาวเขาแก้ว จนถึงทางแยก จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์จากนั้นขับไปตามทางอีกประมาณ 6.5กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดถ้ำพระโพธิสัตว์อยู่สุดถนน